ทำเอาหลายคนเป็นห่วงไปตามๆ กันหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา สาวแคทรียา อิงลิช ได้โพส์ภาพนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากอินกับละครจนเกินไป และรับไม่ไหว บวกกับอาการไข้ด้วย งานนี้มีโอกาสเจอเจ้าตัวที่งานบวงสรวงละครเรื่อง เรือนสายสวาท ก็ขออัพเดทอาการเสียหน่อย
ถ่ายละครหนักจนล้มป่วย ต้องเข้าโรงพยาบาล?
พอดีว่าป่วยตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้ว เป็นหวัด มันไม่ได้ฟื้นซะทีเดียว พอกลับมาจากปีใหม่ปุ๊บ ถ่ายละครหนักมาตลอด ถ่ายอยู่ 3 เรื่อง แล้วเข้าฉากหนักเลยตั้งแต่เช้า ทั้งกรี๊ด สติแตก ร้องไห้ ไม่ไหวแล้ว นี่เป็นการทำงานครั้งแรกในรอบ 30 กว่าปีที่ขอพักกอง รู้แล้วว่าถ้าถ่ายต่อไม่ไหวแน่นอน เพราะเราเกร็ง รู้สึกไม่ดี เราเลยบอกทีมงานขอพักหน่อย เพราะไม่ไหวแล้ว พักแป๊บนึง แล้วก็เริ่มถ่ายฉากเบาๆ แล้วช่วงพักเที่ยง ขอออกไปฉีดยาแว๊บนึง ไข้ขึ้น กลับมาก็ถ่ายต่อเลย
วันนั้นถ่าย 30 กว่าฉาก เราก็บอกขอแบ่งดูฉากไหนที่หนักๆ ขอเว้นบ้าง เป็นฉากเบาๆ ให้มันมีช่องว่างบ้าง ให้มีเวลาหายใจ ถ่ายจนถึง 4 ทุ่ม ก็น็อก เข้าโรงพยาบาลต่อ มันเริ่มจากปวดหัวมาก เป็นไมเกรน รู้ว่าถ้าหนักกว่านี้กลัวร่างช็อก เพราะเราใช้พลังเยอะมาก โดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างเมื่อวานนี้ถ่ายฉากที่ทะเลาะกับหยาดทิพย์ ทั้งเตะ ตบ ใส่อารมณ์เต็ม เราเบาไม่ได้เพราะมันจะดูไม่จริง ถ่ายไปถ่ายมาเขาไม่คัตสักที จนเราต้องสั่งคัตเอง บอกว่าไม่ไหวแล้ว เพราะตัวสั่นไปหมด มันรู้สึกเวียนหัว มันหมุนไปหมด ขอพักสักแป๊บนึง ขอผลไม้ ขออะไรหวานๆ หน่อย ผู้กำกับบอกว่าแคทตลกดีเนอะ เวลาป่วยก็นั่งทำหน้าเหนื่อยๆ แต่พอเข้าฉากปุ๊บเต็มที่ พอคัตไม่ไหว
ใช่ค่ะคืนนั้น แอดมิด ไปให้น้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อ ไปนอนมา 1 คืน แล้วก็ต้องขอหมอออก เพราะว่าต้องถ่ายละคร 3 เรื่องด้วยคุณหมอบอกว่าร่างกายช็อก ทำงานหนัก ใช้พลังเยอะมาก เครียดเพราะว่าฉากมันต้องกรี๊ด ต้องสติแตก มันเครียดจนร่างกายรับไม่ไหว
เราก็พยายามเบาๆ ลง ผู้กำกับก็ช่วย เพื่อนๆ ทีมงานที่อยู่ด้วยกัน พอรู้ว่ามันเป็นฉากอะไรที่หนัก ผู้กำกับจะเข้ามาพยายามเล่นด้วย พยายามดึงจิตออกมา ไม่ให้เราเศร้า เครียด ไม่อย่างงั้นมันจะดิ่งไปเรื่อยๆ
เพิ่งได้กลับไปคุย วันแรกที่เปิดกล้องไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าจะต้องเล่นหนักขนาดนั้น วันแรกสติแตก กรี๊ด โยนของ ไม่เคยเล่นบทแบบนี้ ถ้าเล่นจะนิ่งๆ ใช้อินเนอร์อย่างเดียว แต่นี้ใช้ทั้งร่างกาย รู้เลยว่าจิตตกมาก แล้วถ่ายทั้งวันจนถึงดึก พอดึกๆ กดหาจิตแพทย์เลยไม่ไหว รู้ว่ารับไม่ทัน คุยเกือบ 2 ชั่วโมง คือมันกระทันหัน เราไม่ได้เตรียมตัวไปก่อน ถ้าเราเตรียมตัวไปก่อน เราจะได้รับมือได้ ระงับจิตใจได้ว่าอย่าดิ่งนะ
ใช่ค่ะ ยังไงก็สู้ มันคืองานของเรา ความรับผิดชอบของเรา การที่เราเป็นนักแสดงจะมาบอกว่า อันนี้หนักเกินไปไม่ไหว ถ้าอย่างนั้นเราไม่ใช่มืออาชีพแล้ว เขาจ้างให้เรามารับงานตรงนี้ เราต้องรับผิดชอบ และต้องดูแลตัวเองให้ได้ นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เราต้องดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจะทำยังไงก็ได้ ที่ทำให้เราทำงานต่อไปได้
ใช่ค่ะ มีอยู่แค่นั้น ฉากอาบน้ำ ฮอตที่สุดแล้วเท่าที่เคยเล่นมา ณ เวลานี้ เท่าที่อ่านบทนะ ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีไหม เพราะว่าบทยังมาไม่ครบค่ะ ต้องอ่านต่อว่ามีอีกมั้ย แต่คงไม่มีมากกว่านี้แล้วค่ะ
ทับทิม อัญรินทร์ ชี้แจงไม่ใช่นางเอกขี้วีน เลือกพระเอก
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถ สำหรับ ทับทิม อัญรินทร์ ที่เพิ่งได้รับรางวัล Best Actress in A Leading Role จากงานประกาศรางวัล Asian Television Awards 2019 จัดขึ้นที่ ประเทศฟิลิปินส์ พอกลับถึงไทยไม่ทันไร เจ้าตัวก็โดนโยงว่าเป็นนางเอกขี้วีน ขอผู้จัดเปลี่ยนตัวพระเอกเสียอย่างนั้น งานนี้เมื่อเจอเจ้าตัวไปออกงาน ก็ขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เสียหน่อย
ดีใจมาก ไม่คาดคิดเลยจริงๆ ค่ะ แค่ได้มีชื่อเข้าชิงและได้ไปร่วมงานประกาศรางวัลในระดับเอเชียแบบนั้น ก็ถือว่าเป็นอะไรที่มันภาคภูมิใจแล้วที่เราได้ไปยืน ณ ตรงนั้น แต่สิ่งที่มันไม่คาดคิดมากกว่านั้นคือเราได้รางวัลกลับมาด้วย มันอธิบายไม่ถูกนะ ถึงความรู้สึก ณ ตอนนั้นที่เราได้ยินชื่อเรา มันมีหลากหลายอารมณ์มากๆ อยากร้องไห้ด้วย แต่ต้องฮึบไว้ เดี๋ยวพูดไม่รู้เรื่อง อายเขา ก็เป็นปีแรกเลยที่มีชื่อเข้าชิง แล้วก็เป็นปีแรกที่มีโอกาสได้ร่วมงานในระดับเอเชีย
ถ้าพูดถึงความอยาก ทุกคนอยากได้รางวัลอยู่แล้ว แต่ไม่กล้าหวังมาก เพราะระดับเอเชีย มีแต่คนเก่งๆ ในสาขาของทับทิม ที่เป็นนักแสดงสมทบหญิง ก็มีแต่คนเก่งๆ เราก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นเราแน่ๆ เพราะเราก็เป็นแค่คนไทยคนเดียวเองที่ได้มีชื่อเข้าชิงในสาขานี้ ก็เลยคิดว่าไม่น่าจะใช่เราหรอก ตอนเดินขึ้นไปรับรางวัล ตื่นเต้นมาก พยายามระงับอารมณ์ ไม่อยากร้องไห้ อยากจะพูดให้รู้เรื่องมากที่สุด แล้วตอนนี้ก็คิดอยากจะขอบคุณใคร อยากจะขอบคุณให้ครบจริงๆ ก็เลยพยายามพูดสิ่งที่นึกออก ณ ตอนนั้น แต่ก็อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ได้พูดถึง ก็มาไล่ขอบคุณตอนหลังหมดแล้ว
ใช่ สิ่งที่เตรียมตัวก่อนไป แค่รื้อฟื้นภาษาอังกฤษเฉยๆ เพราะปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ พอรู้ว่ามีโอกาสได้ไปร่วมงาน อยู่บ้านก็ชวนที่บ้านพูดภาษาอังกฤษ พยายามให้เคยชิน เพราะ ณ เวลาที่เราไป ก็ต้องเจอกับนักแสดงจากหลายๆประเทศ เพราะฉะนั้นจะเข้าสังคมกับเขาได้ต้องพูดคุยกันกับเขา พยายามฝึกให้เป็นธรรมชาติ สามารถสื่อสารกันได้ เราเตรียมไปว่าฟิลิปปินส์เขาทักทายกันว่ายังไง ก็จะได้สวัสดี ขอบคุณ นิดๆ หน่อยๆ ซึ่งก็ขอบคุณ เพราะแฟนๆ ชาวฟิลิปปินส์น่ารักมากๆ ไม่ทราบว่าเรามีแฟนละครชาวฟิลิปปินส์อยู่เหมือนกัน คือทุกคนต้อนรับดีมาก แล้วก็ทั้งปรบมือ ทั้งกรี๊ดให้ เป็นอะไรที่ประทับใจมากจริงๆ
น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ คือช่วงที่ป่วย พอทานยามันทำให้หิว แต่ก็ควบคุมได้ แต่ ณ เวลานี้เราเอาจิตของเราก่อนดีกว่า ถ้าเราจะเครียดเรื่องอื่นมาก เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ เพิ่มมา 1 นิ้ว แค่นิ้วหนึ่งก็เครียดแล้ว แต่ไม่มาก น้ำหนักขึ้นมา 4 โล เยอะอยู่นะ แต่ก็ลงๆ ขึ้นๆ คืออาหารในกองถ่ายอร่อย แล้วเขาก็มีอาหารมาให้กินตลอด แต่ว่าถ้ามีความรู้สึกว่าขึ้นแล้วก็ควบคุม ดูแลมากขึ้น
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป