วอลเล็ต สบม. – นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รายงาน วอลเล็ต สบม. หรือวอลเล็ตสะสมบอนด์มั่งคั่ง ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน และเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์ได้ง่าย และเท่าเทียมกัน โดยเป็นโครงการนำร่องที่นำเทคโนโลยีมาใช้จำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านเป๋าตังค์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการต่อยอดแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ที่ออกแบบโครงสร้างใหม่ให้เป็นระบบการเงินแบบเปิดสามารถรองรับวอลเล็ตได้หลายตัวพร้อมๆกันเพื่อสนับสนุนระบบการเงินในอนาคตที่ต้องมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ รวดเร็ว โปร่งใส และลดโครงสร้างต้นทุน โดยวอลเล็ต สบม.มีการลดหน่วยลงทุนให้มีขนาดเล็กลงด้วยการลงทุนขั้นต่ำ 100 บาทเป็นการสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินของประชาชนทุกกลุ่ม
พันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. (สะสม บอนด์ มั่งคั่ง) วงเงิน 200 ล้านบาท รุ่นอายุ 3 ปี 1.70 % ต่อปี
ผู้มีสิทธิ์ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. (สะสม บอนด์ มั่งคั่ง)
มีเงิน 100 ซื้อบอนด์ได้ เด็กอายุ 15 ปีขึ้นไป มีทางเลือกในการออม (อายุไม่ถึง 20 ปี ต้องให้ผู้ปกครองให้ความยินยอมที่ธนาคารกรุงไทย)
สิทธิประโยชน์ของผู้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. (สะสม บอนด์ มั่งคั่ง)
ไม่ต้องรอ 15 วัน ไม่ต้องรอ Bond Book แสดงควมเป็นเจ้าของด้วยข้อมูลในวอลเล็ต
ผู้ซื้อเปิดวอลเล็ตดิจิทัล เห็นข้อมูลของเงินและบอนด์ในวอลเล็ตเดียวกัน
ผู้ขายบอนด์มีข้อมูลผลลัพธ์การขายเป็นรายนาที
ผลตอบแทนของผู้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. (สะสม บอนด์ มั่งคั่ง)
รับดอกเบี้ยเข้าวอลเล็ต เมื่อถึงวันรอบจ่ายดอกเบี้ย
ขายบอนด์วอลเล็ตได้ทันทีผ่าน Market Market
ซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลอื่นได้ผ่านวอลเล็ต สบม.
การเติบโตของเศรษฐกิจนั้นต้องชะลอลงอันเนื่องจากส่วนใหญ่ต้องอาศัยสินค้านำเข้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน การประสบภัยธรรมชาติ และระยะทางที่ยาวไกลจากตลาดหลักและระหว่างเกาะน้อยใหญ่ แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1999 และตามด้วยสึนามิ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อเกาะทางตอนเหนือ ทำให้ประชากรหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัยแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนมกราคม 2002 ก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ในเมืองหลวง และพื้นที่โดยรอบ ทั้งยังประสบภัยจากสึนามิในเวลาต่อมาด้วย
โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ
มาตรการที่ 1 : พักชำระเงินต้น 3 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท มีลูกค้าเข้ามาตรการ 61,578 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 58,754 ล้านบาท
มาตรการที่ 2 : พักชำระเงินต้น 1 ปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน เมื่อครบ 1 ปี สามารถแจ้งความประสงค์ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้นานสูงสุดอีก 10 ปี มีลูกค้าเข้ามาตรการ 60,134 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 74,124 ล้านบาท
มาตรการที่ 3 : พักชำระเงินต้น 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน มีลูกค้าเข้ามาตรการ 28,998 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 27,913 ล้านบาท
มาตรการที่ 4 : ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน 6 เดือน สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรืออยู่ในสถานะกฎหมาย มีลูกค้าเข้ามาตรการ 16,928 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 15,719 ล้านบาท
มาตรการที่ 5 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน สำหรับสำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 35,000 บาท ธนาคารจะยกดอกเบี้ยที่พักชำระให้ลูกค้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการเมื่อสิ้นสุดระยะเวลากู้ตามสัญญา มีลูกค้าเข้ามาตรการ 217,589 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 193,735 ล้านบาท
มาตรการที่ 6 : พักชำระเงินต้น 4 เดือน ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.00% ต่อปี สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานด้านสาธารณสุขและสถานพยาบาล มีลูกค้าเข้ามาตรการ 7,588 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 10,600 ล้านบาท
มาตรการที่ 7 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อประเภทแฟลตและสินเชื่อพัฒนาโคงการที่อยู่อาศัย(Pre Finance) มีลูกค้าเข้ามาตรการ 494 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 2,979 ล้านบาท
มาตรการที่ 8 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 มีลูกค้าเข้ามาตรการ 38,555 วงเงินสินเชื่อ 43,792 ล้านบาท
“ปัจจุบันธนาคารยังคงเปิดให้ลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 1 พักชำระเงินต้น 3 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนได้ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ส่วนลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ไปแล้วก็ยังสามารถเปลี่ยนมาพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือนได้เช่นกันโดยการลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 8 ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2563 ซึ่งสามารถดำเนินการได้ผ่าน Application : GHB ALL ทั้งนี้ ธอส. ยังเตรียมขยายระยะเวลาความช่วยเหลือตามมาตรการต่าง ๆ ให้กับลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบโดยอัตโนมัติไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง” นายกมลภพ กล่าว
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป